บริการทำความสะอาด: วิธีทำความสะอาดสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำในบ้านนั้นต้องได้รับการดูแลรักษาให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อให้พร้อมใช้งาน เรียนรู้วิธีทำความสะอาดและดูแลให้สระว่ายน้ำของคุณให้ปลอดภัยด้วยคู่มือง่ายๆ ของเรา
การทำความสะอาดสระว่ายน้ำนั้นเป็นแค่หนึ่งในสิ่งที่ต้องทำถ้าหากต้องการจะมีสระว่ายน้ำเป็นของตัวเอง โดยถ้าหากคุณอยากจะใช้งาน คุณก็จะต้องคอยดูแลสระว่ายน้ำให้สะอาดสวยงามอยู่เสมอ เพราะน้ำสกปรกนั้นอก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพมากมาย เจ้าของสระว่ายน้ำหลายคนอาจจะเลือกว่าจ้างให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดสระว่ายน้ำมาช่วยดูแล โดยถ้าหากคุณรู้จักวิธีดูแลสระว่ายน้ำอย่างถูกต้อง คุณก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินแพงๆ เช่นนั้น โดยแค่ทำตามขั้นตอนง่ายๆ ด้านล่างนี้
– ควรคลุมสระว่ายน้ำกลางแจ้งไว้หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว เพื่อช่วยให้สระสะอาด ปราศจากเศษขยะอยู่เสมอ
กำหนดตารางการดูแลสระว่ายน้ำ
เคล็ดลับในการทำให้สระว่ายน้ำสะอาดอยู่เสมอก็คือการดูแลรักษาอยู่เป็นประจำ ดังนั้นคุณควรจะทำความสะอาดตามรอบระยะเวลาดังนี้:
รายวัน:
– ใช้กระชอนช้อนเศษขยะที่หล่นลงไปในน้ำออก
– เอาเศษขยะในตะแกรงสกิมเมอร์ไปทิ้ง
– ทำความสะอาดบริเวณด้านนอกสระก่อนใช้งาน
สองครั้งต่อสัปดาห์:
– ทำความสะอาดบริเวณผนังและก้นสระเพื่อกำจัดตะกอนและสิ่งสกปรก
– เอาเศษขยะในตะแกรงของปั๊มสูบน้ำไปทิ้ง
รายสัปดาห์:
– ใช้แปรงขัดด้วยมือเพื่อทำความสะอาดคราบหินปูนที่จับอยู่บนกระเบื้องที่อยู่ปริ่มระดับน้ำ
– ตรวจสอบและปรับค่าสารเคมี/ระดับสมดุล pH ของน้ำ
รายเดือน:
– ทำความสะอาดตัวกรองของสระว่ายน้ำ
วิธีทำความสะอาดผนังและพื้นสระว่ายน้ำ
วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำความสะอาดพื้นผิวด้านในสระก็คือการซื้อเครื่องดูดฝุ่นสำหรับสระน้ำ ซึ่งคุณอาจจะใช้งานแบบถือดูด หรือมัดติดกับเสายาวและค่อยๆ ลากไปตามขอบพื้นผิวด้านในของสระเพื่อดูดเก็บตะกอนและสิ่งสกปรกต่างๆ
หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือใช้แปรงทำความสะอาดสระว่ายน้ำแบบด้ามยาว กวาดไปรอบๆ เพื่อให้ตะกอนไปรวมกันอยู่ที่ปลายสระฝั่งตื้น ทั้งนี้ คุณควรเลือกแปรงที่มีขนนุ่มเพื่อไม่ให้ขีดข่วนกระเบื้องสระหรือยาแนวจนเป็นรอยเสียหาย
เพื่อให้มั่นใจได้มากขึ้นอีกระดับว่าคุณได้กำจัดสิ่งสกปรกและตะไคร่ออกจากสระได้อย่างหมดจด คุณควรทำความสะอาดด้วยแปรงก่อน จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นตาม การเติมสารเคมีฆ่าเชื้อลงไปในน้ำจะช่วยกำจัดเชื้อโรคที่เหลือตกค้างอยู่
วิธีทำความสะอาดฟิลเตอร์สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำทุกสระนั้นมีฟิลเตอร์ โดยฟิลเตอร์นั้นมีหลายชนิดด้วยกัน ด้านล่างนี้คือวิธีทำความสะอาดฟิลเตอร์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด 2 แบบ อย่างไรก็ตาม คุณควรอ่านคู่มือแนะนำของผู้ผลิตก่อนล้างฟิลเตอร์ด้วยตัวเอง สวมเสื้อผ้าป้องกันให้มิดชิด และอย่าลืมปิดปั๊มให้เรียบร้อยก่อนเริ่มลงมือดูแลสระว่ายน้ำของคุณ
ฟิลเตอร์ทราย
– เปิดวาล์วท่อน้ำทิ้ง จากนั้นตรวจสอบว่าได้สอดสายยางให้น้ำสกปรกไหลออกมาได้อย่างสะดวกแล้วหรือยัง
– หมุนปั๊มให้ไปอยู่ที่ตำแหน่งย้อนทางหรือ “backwash” แล้วเปิดปั๊มให้ทำงานอีกครั้ง
– เมื่อน้ำที่ไหลออกจากสายยางนั้นเริ่มสะอาด ปิดปั๊ม แล้วตั้งค่าฟิลเตอร์ให้กลับอยู่ที่ตำแหน่งเดิม
– เปิดปั๊มให้ทำงาน 10-15 วินาที จากนั้นปิดเครื่อง และทำตามขั้นตอนข้างต้นอีกครั้ง
– ขั้นสุดท้าย ตั้งค่าปั๊มให้เป็นเหมือนตอนแรกเริ่ม (ปิดวาล์วน้ำทิ้งและเก็บสายยาง)
– ตรวจสอบว่าระดับน้ำนั้นสูงเพียงพอ เพิ่มน้ำสะอาดหากจำเป็น
ฟิลเตอร์แบบถังกรอง
– ถอดฟิลเตอร์ออกจากที่ใส่ตามวิธีที่ผู้ผลิตระบุ
– ใช้สายยางรดน้ำต้นไม้ฉีดไล่เศษฝุ่นผงออกจากฟิลเตอร์ให้สะอาด
– แช่ฟิลเตอร์ในน้ำผสมน้ำยาทำความสะอาดฟิลเตอร์ (ตามคำแนะนำที่อยู่บนฉลาก)
– ล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
– หากฟิลเตอร์ยังคงมีสิ่งสกปรกอุตตัน ให้นำไปแช่น้ำผสมกรดไฮโดรคลอริก (ตามคำแนะนำที่อยู่บนฉลาก) อย่าลืม: สวมเสื้อผ้าป้องกันให้มิดชิดและป้องกันให้พ้นมือเด็ก
– ล้างถังกรองและใส่กลับเข้าไปตามเดิม
วิธีทำความสะอาดสระว่ายน้ำที่ตะไคร่ขึ้นจนเขียว
หากสระของคุณถูกปล่อยปละละเลยเอาไว้เป็นเวลานาน จนน้ำกลายเป็นสีเขียวดูสกปรกไปหมด คุณก็คงจะต้องรับมือกับตะไคร่และตะกอนจำนวนมากที่ตกค้างอยู่ในสระ ซึ่งอาจจะทำให้คุณต้องตัดสินใจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการทำความสะอาดสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ แต่ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถทำเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยคุณควรระมัดระวังในระหว่างการใช้งานสารเคมี พร้อมสวมเสื้อผ้าป้องกันมิดชิดและปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยที่ระบุไว้บนฉลากอย่างเคร่งครัดทุกครั้ง
– ตักเอาสิ่งสกปรกที่มองเห็นได้ออกให้หมดด้วยตะแกรงตักใบไม้ จากนั้นรอให้ที่สิ่งสกปรกเหลือตกตะกอนลงไปที่ก้นสระ
– ปรับค่า pH ของสระว่ายน้ำให้อยู่ในระดับที่ถูกต้องเพื่อช่วยให้น้ำใสขึ้น
– เติมคลอรีนในปริมาณมากเพื่อให้น้ำในสระมีอาการ “ช็อก” คลอรีนจะไปฆ่าแบคทีเรียและตะไคร่ที่ยังหลงเหลืออยู่ในสระ
– เปิดปั๊มให้ทำงานทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง อย่าลืมทำความสะอาดฟิลเตอร์หลายๆ ครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเตอร์อุดตัน
– หลังจากน้ำเริ่มสะอาดขึ้น ให้ดูดสิ่งสกปรกและตะกอนที่ตกค้างที่ก้นสระขึ้นมา
– ทีนี้สระของคุณก็สะอาดและพร้อมใช้งานแล้ว
– ตรวจสอบว่าคุณมีอุปกรณ์ครบทั้งหมดแล้ว
– กำหนดตารางการดูแลสระว่ายน้ำที่ชัดเจน
– กำจัดสิ่งสกปรกออกจากสระว่ายน้ำ และทำความสะอาดผนังและพื้นสระอยู่เป็นประจำ
– กำจัดเศษขยะในตะแกรงสกิมเมอร์และฟิลเตอร์เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก
– ตรวจสอบความสมดุลของสารเคมีในสระให้อยู่ในระดับที่ถูกต้องอยู่เสมอ